ด้วยเสน่ห์ของการออกแบบรถสปอร์ต ที่เน้นถึงความสวยงามในรูปลักษณ์ตั้งแต่แรกพบเห็น ด้วยการผนวกงานศิลปะและศาสตร์ของการออกแบบ ทำให้รถสปอร์ตมีสเน่ห์ที่เย้ายวนน่าหลงใหล Toyota MR-S เป็นอีกหนึ่งยนตกรรมที่ผสานความรู้สึกของการขับขี่ และเทคโนโลยีเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ในสไตล์สปอร์ตเปิดประทุนที่ได้รับการออกแบบ ด้วนรูปโฉมที่โฉบเฉี่ยวและเร้าใจ อาจทำให้นึกถึงรถ Porsche ในอดีตเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา
มองจากด้านหน้าจะเห็นไฟหน้าใหญ่อย่างเด่นชัด กลมกลืนกับฝากระโปรงหน้าที่ลาดเอียงรับกับกระจังหน้า เป็นความงามอีกมุมหนึ่งที่ต้องยอมรับถึงการออกแบบ แสดงถึงความอิสระอันไร้ขอบเขตแห่งการขับขี่ ทำให้ตัวถังลู่ลมให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศน้อย กระจกหน้าใหญ่กว้างให้มุมมองของการขับขี่ที่ชัดเจน ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยที่ดี สปอยเลอร์ในตัวที่ด้านหน้าเพิ่มความโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น
บั้นท้ายเป็นที่เก็บขุมพลังของเครื่องยนต์ ถูกออกแบบให้รับกับพลังและการระบายความร้อน มองแล้วเหมือนการออกแบบในสไตล์เครื่องยนต์วางหน้า พร้อมกับไฟท้ายที่เด่นชัดและไฟเบรกดวงที่สาม ให้ความงามสง่าและปลอดภัย พร้อมช่องระบายความร้อนด้านบนและด้านล่าง จึงขาดความงามของบั้นท้ายไปอย่างน่าเสียดาย ด้วย spoiler รอบคันทำให้รถมีความเตี้ยอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ติดขัดกับเส้นทางที่ต้องปีนป่ายบางครั้ง แต่อาจทำให้การขึ้น-ลงค่อนข้างลำบากสักนิด ด้านข้างของตัวรถไม่หวือหวาแต่มีเสน่ห์ ช่องดักลมทั้ง 2 ข้าง ช่วยเพิ่มสมรรถนะของการระบายความร้อนได้เร็วขึ้น
ภายใน Toyota MR-S ให้ความสปอร์ตและดุดัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้อุปกรณ์หรือโทนสี อีกทั้งการจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและชัดเจน แผงหน้าปัดให้ความเร้าใจด้วยเรือนไมล์สีขาวมองเห็นเด่นชัด บริเวณด้านบนของหน้าปัดเพิ่มช่องเก็บของเพื่อความสะดวก ปุ่มปรับอุณหภูมิและความแรงของกระแสลมของเครื่องปรับอากาศ แยกส่วนของการทำงานอย่างชัดเจน ด้วยการออกแบบอย่างมีชั้นเชิง ช่องปรับอากาศจำนวน 4 ช่อง ให้ความย็นสบายทั่วห้องโดยสาร แผงข้างประตูให้ความหนักแน่นด้วยคานเหล็กที่ออกแบบเป็นที่ปิด-เปิดประตูบึกบึนและสมาร์ทสมกับความเป็นรถสปอร์ต ช่องเก็บของด้านหน้าดีไซน์ลงตัวกับแผงประตูด้านข้าง คอนโซลกลางมีเส้นสายที่โค้งมนพร้อมเบรกมือและที่วางถ้วย เรียกว่าออกแบบทีเดียวสามารถใช้งานได้ถึง 3 แบบ การเลือกโทนสีขาว-ดำ ทำให้รถดูน่าเกรงขาม ตัดกับสีของรถที่เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด จึงเป็นอีกสเน่ห์ของรถสปอร์ตที่ยากจะลืม
เบาะนั่งใช้วัสดุที่เรียบง่ายแต่ดูหรูหรา โทนสีของผ้าเบาะดูแลรักษาง่าย นอกจากนี้เบาะนั่งยังโอบกระชับรับกับสรีระของผู้ขับขี่ ในสไตล์เดียวกับเบาะนั่ง Bucket Seat แม้จะเป็นรถสปอร์ตขนาดเล็กแต่ให้ความสบายกับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เพราะมีพื้นที่ที่กว้างขวางรองรับผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารที่ตัวขนาดใหญ่ได้อย่างสบาย ๆ จึงไม่เป็นอุปสรรคสำหรับคนตัวโตใหญ่แต่อย่างใด
เจ้า MR-S ใช้เครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด 1ZZ-FE ขนาด 1,800 cc.ระบบประจุไอดีแบบแปรผัน VVT-I ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,400 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 17.4 กิโลกรัมเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ ควบคุมทั้งการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบน็อค-เซ็นเซอร์ ตรวจสอบการน็อคของเครื่องยนต์ จะควบคุมการน็อคทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่องยนต์จะมีอายุการใช้งานนาน
ระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ตอบสนองความต้องการเปลี่ยนเกียร์อัตราทด สามารถบังคับเกียร์ได้อย่างง่ายดาย เพราะมีน้ำหนักเบาต่อการเปลี่ยนเกียร์ ทำให้เครื่องยนต์ส่งกำลังได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตลอดการขับขี่เกือบทุกซอกมุมของกรุงเทพ เจ้า MR-S เป็นที่สนใจของผู้ใช้รถบนท้องถนนในกรุงเทพ นั่นเป็นเพราะสีสันที่แสบตาและเด็ดดวงเหลือเกิน อีกทั้งสมรรถนะของการขับขี่สามารถตอบสนองการใช้งานค่อนข้างดี ทำให้บทบาทของผู้ขับขี่ได้ใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอัตราเร่ง หรือการแซงบางช่วงที่ต้องทำเวลา MR-S ให้คุณได้ดีพอควร
ต้องยอมรับกันอย่างตรงไปตรงมาสำหรับความเป็นรถสปอร์ต เพราะสมรรถนะพอควรกับเครื่องยนต์ที่จับใส่ลงมา แต่คงปฏิเสธไม่ได้กับช่วงล่างที่ยังไม่ดีเท่าที่ควร เพราะเมื่อทำความเร็วในระดับที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาการทรงตัวของรถค่อนข้างจะสะท้านความรู้สึก เกิดอาการไม่มั่นใจในการขับขี่ แต่ไม่ถึงกับเลวเสียทีเดียว ถ้ามีการปรับ set ให้ลงตัวมากกว่านี้ จะเป็นการดีสำหรับเจ้า MR-S คันนี้
สำหรับการขับขี่เจ้า MR-S คงต้องบอกว่าเป็นรถที่น่าใช้ อัตราเร่งทำได้ดีทั้งตีนต้นและตีนปลาย แต่ถ้ามีการปรับเปลี่ยนสมรรถนะของช่วงล่างให้มีการทรงตัวที่ดีกว่านี้ เชื่อว่าเจ้า MR-S คันนี้ จะเป็นรถที่น่าใช้มาก เพราะมีขนาดที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ กำลังดีกับการขับขี่ทั้งใกล้และไกล
ความปลอดภัยเป็นอีกเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับการขับขี่รถสปอร์ต และยิ่งเป็นรถสปอร์ตเปิดประทุน ความปลอดภัยจึงเป็น เรื่องสำคัญอย่างมาก MR-S จึงออกแบบเช่นเดียวกับรถแข่ง Formula-1 เครื่องยนต์และเกียร์ถูกจัดวางอยู่กึ่งกลางตัวรถ และขยายฐานล้อให้กว้างขึ้น วางล้อหน้าในตำแหน่งที่ห่างจากจุดศูนย์กลาง ตัวถังใช้วัสดุที่ดูดซับแรงชนทั้งหน้าและหลัง โดยกระจายแรงไปทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้ห้องโดยสารไม่เสียรูปทรง
แม้จะเป็นรถแบบเปิดประทุนสามารถเปิด-ปิดหลังคาผ้าใบได้ด้วยตนเอง Toyota MR-S ได้ติดตั้งระบบกันขโมยเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เป็นเจ้าของ โดยติดตั้งกุญแจไว้ในกล่องเก็บของพร้อมกุญแจ ทั้งกุญแจล็อกที่ฝาน้ำมันและเครื่องยนต์ เป็นการเพิ่มความมั่นใจอีกระดับ นอกจากนี้ได้ติดตั้งระบบเบรก ABS และถุงลมนิรภัยคู่ด้านหน้า จึงเชื่อว่าน่าจะตอบสนองคนรักรถสปอร์ตได้อีกระดับ ในราคาที่น่าสนใจไม่น้อย
อุปกรณ์ความปลอดภัยที่ MR-S ให้มานั้น อาจยังไม่ถึงกับถูกใจนัก เพราะเป็นรถสปอร์ตเปิดประทุน จึงน่าจะมีโรลบาร์หลังเบาะนั่ง เช่นเดียวกับมาตรฐานของรถยุโรปหรืออเมริกา นอกจากนี้สิ่งที่รถญี่ปุ่นขาดไปคืออุปกรณ์ความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม MR-S จะเป็นอีกหนึ่งมาตรฐานของรถญี่ปุ่นที่กำลังได้รับการพัฒนาให้เทียบเท่ามาตรฐานรถยุโรปหรืออเมริกา
บทสรุปการขับขี่คงต้องบอกว่าเป็นรถน่าใช้ แม้จะเป็นรถที่เห็นแก่ตัวไปนิด (นั่งได้ 2 คนเท่านั้น) จึงเป็นรถสำหรับกลุ่มคนเพียงบางส่วนของสังคมที่ชื่นชอบรถสปอร์ต เพราะด้วยราคาจำหน่ายที่พอควร และตลาดกำลังเปิดกว้างรองรับ น่าจะทำให้ SEC Group ทำยอดขายได้อีกไม่น้อย
ข้อมูลทางเทคนิค
รายละเอียด |
Toyota MR-S |
น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) |
1,080 |
ความยาว*กว้าง*สูง (มม.) |
3,885*1,695*1,235 |
ความยาวช่วงล้อ (มม.) |
2,450 |
แบบ |
Water-Cooled Engine |
ปริมาตรกระบอกสูบ (cc.) |
1,794 |
ความกว้างกระบอกสูบ*ระยะชัก (มม.) |
79.0*91.5 |
แรงม้าสูงสุด (ECC Net) PS/rpm |
140/6,400 |
แรงบิดสูงสุด (ECC Net) นิวตัน-เมตร/rpm |
17.4/4,400 |
อัตราส่วนกำลังอัด |
10.0:1 |
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) |
48 |
ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง |
Electronic Fuel Injection (EFI) |
ระบบขับเคลื่อน |
ล้อหลัง |
ระบบกันสะเทือนหน้า |
อิสระ แม็คฟอร์สัน สตรัท คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง |
ระบบกันสะเทือนหลัง |
อิสระ แม็คฟอร์สัน สตรัท คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง |
ระบบเบรก |
ไฮดรอลิคแยกอิสระ 2 วงจร พร้อมระบบ ABS |
หน้า |
ดิสค์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน |
หลัง |
ดิสค์เบรก |
ระบบพวงมาลัย |
Rack and Pinion พร้อมระบบ power ช่วยผ่อนแรง |
ระบบเกียร์ |
Manual 5 Speed |
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด (ม.) |
5.0 |
Test Drive by Autocar
Test |
MR-S 1.8 |
Max Speed |
126 |
0-60 mph |
7.5 |
0-100 mph |
22.9 |
30-70 mph |
7.4 |
50-70 mph |
8.9 |
60-0 mph |
2.7 |
Power (bhp) |
138 |
Torque (lb/ft) |
125 |
Mph/1000 rpm |
21.4 |
Test/Touring mpg |
17/38 |
Weight (kg) |
1076 |
Test Date |
29.3.00 |
Thanks a lot for ยวดยาน ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล