โมเครื่องคาร์บูเรเตอร์ให้แรง
วิธีแรกก็คือการเปลี่ยนคาร์บูเรเตอร์มาใช้เป็นแบบคู่แทน โดยใช้คาร์บูเรเตอร์แบบท่อคู่ 2 ตัว ซึ่งวิธีนี้วัยแรงทั้งหลายคงพอจะคุ้นกันเป็นอย่างดี ความแรงที่ได้นั้นก็จัดว่ารุนแรงไม่น้อยถ้าได้ทำการปรับแต่งไส้ในตามไปด้วยก็จะยิ่งดุดันมากขึ้น ในขั้นต่อมาเป็นการคบหากับเทอร์โบ ซึ่งวิธีนี้จะมีให้เล่นกันอยู่ 2 แบบ
แบบแรกคือแบบดูด การเซ็ทเทอร์โบแบบดูดนี้ ตัวคาร์บูเรเตอร์จะอยู่หน้าตัวเทอร์โบ คอยดูดอากาศเข้าเทอร์โบและให้เทอร์โบปั่นเข้าท่อร่วมไอดีอีกที วิธีนี้จะเหมาะกับการวิ่งในทางตรงสั้น ๆ เช่นควอเตอร์ไมล์ได้เป็นอย่างดี เพราะให้อัตราเร่งที่รุนแรงและดุดัน
แบบต่อมาเป็นแบบอัด สำหรับการเซ็ทเทอร์โบแบบอัดนี้จะมีลักษณะการทำงานคล้ายกับเครื่องพวกหัวฉีดเทอร์โบ คือตัวเทอร์โบจะอัดอากาศเข้าที่คาร์บูเรเตอร์ก่อนแล้วเข้าท่อร่วมไอดีเข้าไปเผาไหม้ต่อไป วิธีนี้ยังคงใช้คาร์บูเรเตอร์ของเดิมได้ แต่ประสิทธิภาพที่ได้อาจจะไม่ดีนัก สู้การเปลี่ยนไปคบกับคาร์บูเรเตอร์แบบท่อคู่ไม่ได้ พละกำลังที่ได้จากการเซ็ทแบบนี้ จะให้อัตราเร่งที่ขึ้นแบบเรื่อย ๆ ความดุดันจะสู้แบบแรกไม่ได้ แต่จะเหมาะสมมากกว่ากับการใช้งานบนถนน อัตราบูสท์เทอร์โบอยู่ประมาณ 10 ปอนด์/ตารางนิ้ว ถ้าต้องการมากกว่านี้จำเป็นที่จะต้องทำไส้ในกันมากพอสมควร เพื่อให้รองรับกับอัตราบูสท์สูง ๆ ได้
การเพิ่มความแรงให้กับเครื่องคาร์บูเรเตอร์นั้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงสำหรับคาร์บูเรเตอร์และเทอร์โบที่นำมาใช้ควรนึกถึงขนาดความจุเครื่องยนต์เพื่อจะได้เลือกขนาดมาใช้ได้อย่างเหมาะสม รวมไปถึงพวกท่อทางเดินไอดีที่ควรมีขนาดให้ใกล้เคียงของเดิมเอาไว้ก่อน สำหรับงบประมาณในการทำนั้นก็ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่นำมาใช้ว่าจะมีเกรดดีขนาดไหน งบประมาณในการทำเริ่มจาก 20,000 - 50,000 บาท หรือมากกว่านั้นถ้าใช้แต่ของดี ๆ ก็คงต้องจัดสรรกันเอาเองว่าจะใช้งบสักเท่าไหร่ ครับผม
ขอขอบคุณหม่อมตุ้ย ม.ร.ว. ประทักษ์ รังสิต สำหรับข้อมูลในครั้งนี้ครับ