911
GT2
ทรวดทรงของเจ้า GT2 นั้น เอาของ 911 Turbo มาใช้ ซึ่งจุดเด่น ๆ ก็จะอยู่ที่ชุดไฟหน้าแบบ "Doe-eye" รวมชุดไฟหน้าไม่ว่าจะเป็นไฟกลางคืน ไฟหรี่ ไฟเลี้ยว และไฟตัดหมอกอยู่ในโคมเดียวกัน ซึ่งโดยปกติด้านหน้าของตัวถังของบอดี้ 996 เองก็มีความเป็นลิ่มแหวกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าตัวเดิม (รหัสตัวถัง 993) เนื่องจากฝากระโปรงจะเอียงรับกับกระจกหน้าที่ลาดเอียงมากกว่าตัวเดิม คือ มุมเอียงได้เปลี่ยนจาก 55 เป็น 60 องศา ส่วนกันชนใหม่ของ 911 GT2 นั้น แม้ว่าจะมีชายล่างที่ทำเป็นสปอยเลอร์สไตล์คล้ายกับ GT3 และ 911 Turbo แต่ช่องดักอากาศที่มุมข้างซ้าย-ขวา และตรงกลางจะมีขนาดเขื่องกว่า เพื่อดักอากาศส่งมาให้แผงความร้อนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และจะวิ่งเลยไประบายความร้อนของชุดเบรคล้อหน้าได้ดีและมากยิ่งขึ้นด้วย พร้อมกันนี้ก็ยังมีลิ้นที่ขอบล่างสไตล์ตัวแข่งเพื่อป้องกันไม่ให้อากาศไหลเข้าใต้ท้องในยามวิ่งด้วยความเร็วสูงมากเกินไปอีกต่างหาก
ด้านข้างของ GT2 ยังมี skirt ต่อชายด้านล่าง และจะมีช่องดักอากาศที่บริเวณหน้าและเหนือของล้อหลัง เพื่อรับอากาศไปป้อนระบบเชื้อเพลิง ระบายความร้อนอินเตอร์คูลเลอร์ และหอยพิษรวมทั้งชุดเบรคของล้อหลัง จากนั้นก็จะวิ่งออกมาที่ด้านหลังของล้อหลังเหมือนตัว 911 Turbo ส่วนที่บั้นท้ายก็จะมีสปอยเลอร์ 2 ชั้นเหมือนกับของ GT3 และ 911 Turbo แต่ของเจ้า GT2 จะมีขนาดเขื่องกว่าพอสมควร สุดท้ายก็เป็นล้ออัลลอยลาย 5 แฉก ขนาด 18 นิ้ว ก็จะเปลี่ยนยางหน้าและหลังขนาด 235/40 และ 295/30 มาเป็น 235/40 และ 315/30 ตามลำดับ
ส่วนขุมพลังเครื่องนอนยัน 6 สูบที่ใช้อยู่ จะเป็นแบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 วาล์วต่อสูบ ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) ที่มีระบบเปลี่ยนองศาเปิด-ปิดวาล์วไอดี ตามรอบการทำงานเครื่องยนต์ ที่เรียกว่า Variocam ทำงานควบคู่อยู่ด้วย โดยสามารถขยับเปลี่ยนองศาวาล์วตามรอบการทำงานถึง 25 องศาด้วยกัน ส่วนบล็อคเสื้อสูบก็จะมีปลอกลูกสูบแบบ Silicon-rich โดยเพลาข้อเหวี่ยงมีแบริ่งรอง 7 ตัวกับชาฟท์อก และชาฟท์ก้านเป็น "อลูมินั่ม/เหล็ก" อีกต่างหาก และมีขนาดกระบอกสูบเท่ากับ GT3 และ 911 Turbo คือ 3.6 ลิตร โดยระบบหล่อลื่นยังเป็นแบบเดิมที่ใช้ระบบ Dry Sump แยกเก็บน้ำมันเครื่องเป็นสัดส่วนแต่เชื่อมเป็นชิ้นเดียวกับบล็อคเครื่องยนต์ ระบบหล่อลื่นนี้จะใช้ปั๊มน้ำมันถึง 3 ตัว เพื่อปั๊มให้น้ำมันหล่อลื่นที่มีความจุ 10.25 ลิตรไหลหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตอนเหวี่ยงตัวเข้าหรือออกโค้งแรง ๆ ส่วนน้ำหล่อเย็นในระบบก็มีถึง 22.5 ลิตรด้วยกัน ดังนั้นเป็นอันหมดห่วงเรื่องจับไข้ตัวร้อนไปได้เลย จากนั้นเมื่อมาป้อนอากาศด้วยระบบเทอร์โบชาร์จของ KKK พร้อม intercooler แบบอากาศสู่อากาศทั้งหมด 2 ชุด แยกเป็นของชุดลูกสูบ (Bank) ฝั่งซ้ายและขวาอิสระอย่างละชุด ซึ่งของ GT2 เค้าได้ปรับแรงบูสท์ให้สูงกว่าของทาง 911 Turbo ม้าในคอกจะมากขึ้นอีก 40 ตัว คือจาก 420 มาเป็น 460 ตัว
ม้าของ GT2 ฝูงนี้จะวิ่งลงดินด้วยการส่งผ่านของเกียร์ที่มีให้เลือก 2 บล็อค คือแบบธรรมดา 6 จังหวะ และแบบ Tiptronic 5 จังหวะ ซึ่งมี switch สับจังหวะเกียร์อยู่ที่พวงมาลัยอีกชุดด้วย เหมือนกับของ 911 Turbo แต่ GT2 จะขับเคลื่อนล้อหลัง นี่เองที่เป็นเหตุให้ตัวรถสามารถลดน้ำหนักลงจาก 1,540 กก. มาเป็น 1,440 กก. ซึ่งก็ทำให้ม้าในฝูงที่มีจำนวนมากขึ้นแล้ว น้ำหนักของแต่ละตัวจะเบาขึ้นเป็นอัตราส่วน 1 ตัวต่อ 3.13 กก. เท่านั้น ทำให้รถคันนี้ทะยานออกจากเส้น start วิ่งไปถึงความเร็วที่ 100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้กว่า 310 กม./ชม.
สำหรับระบบกันสะเทือนทั้งยวงที่ยังรวมถึงซับเฟรม ของ GT2 จะเหมือนรุ่นอื่น ๆ คือเป็นอลูมินั่มอัลลอยทั้งหมด ด้านหน้าจะเป็นแบบอิสระ สตรัท คอยล์สปริง ช็อคอับแก๊ส 2 จังหวะ เหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบอิสระ สตรัท คอยล์สปริง ช็อคแก๊ส มัลติลิ้งค์ยึด 5 จุดและมีเหล็กกันโคลงปิดท้ายอีกเส้น เพียงแต่ GT2 จะถูกเซ็ทมาใหม่ คือให้คอยล์สปริงแข็งขึ้นและปรับให้ช็อคอับหนืดขึ้นพร้อมกับลดระดับตัวถังให้ต่ำลงกว่า 911 Turbo อีก 20 มม. นอกจากนี้ก็ยังเอาระบบ PSM มาทำงานควบคู่กับระบบป้องกันล้อล็อคตาย (ABS) และระบบ ABD ส่วนระบบเบรคเป็นแบบอิสระ 2 วงจร พร้อมหม้อลมผ่อนแรงควบคู่กับระบบป้องกันล้อล็อคตายแบบ 5 sensor 4 Channel รุ่นล่าสุดของ BOSCH โดยทั้งล้อหน้าและหลังก็ใช้ชุด disc brake เหมือนกับ 911 Turbo PCCB อีกด้วย
เจ้า Porsche 911 GT2 เหมือนนำเจ้า 911 Turbo มาแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ โดยภายในก็ยังคงดุดันและเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ แต่น้ำหนักตัวกลับน้อยกว่าพอสมควร ส่วนขุมพลังเทอร์โบนอนยันนั้นก็เพิ่มให้มีม้าในฝูงขึ้นจาก 420 ตัวเป็น 460 ตัว ระบบพวงมาลัยไล่ไปยังชุดเบรคเซรามิค "PCCB" ถูกปรับแต่งใหม่และให้มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานอย่างเต็มพิกัด โดยทั้งหมดก็จะทำให้ GT2 มีความจัดจ้านมากกว่า และยังทำความเร็วสูงสุดได้มากขึ้น ที่สำคัญคือจะมีให้ถอยเพียง 300 คันเท่านั้น!!!
Click at image to enlarge!!!
ดูรูปใหญ่ คลิกที่รูปเลยครับ