Test Drive
 |
ทันทีที่ขึ้นไปนั่งบนเบาะของ S2000 จะได้ความรู้สึกที่ค่อนข้างเร้าใจ เพราะอุปกรณ์รวมถึงแผงหน้าปัดถูกออกแบบมาอย่างกลมกลืนและสะดวกต่อการใช้งานในสไตล์รถสปอร์ต เบาะนั่งจะอุ้มคนขับให้รู้สึกกระชับ ซึ่งจะช่วยประคองคนขับในช่วงเข้าโค้งหรือใช้ความเร็วสูง รถคันนี้ไม่ได้ใช้กุญแจสตาร์ต แต่ใช้ปุ่มสีแดงด้านขวามือต่างหาก เมื่อบิดกุญแจอยู่ในตำแหน่งและกดปุ่มสตาร์ต จะได้ยินเสียงครางของเครื่องยนต์ที่อัดแน่นอยู่ภายใน คันเกียร์สั้นสไตล์รถสปอร์ต |  |
 |
 |
|
|
 |
S2000 ใช้เครื่องยนต์วางหน้า ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง ขุมพลังมาจากเครื่องยนต์ชนิดสันดาปปกติขนาด 4 สูบ ความจุก็ 2 ลิตร รีดแรงม้าสูงสุดได้ 250 ตัว ที่ 8300 รอบต่อนาที หรือเท่ากับ 125 แรงม้าต่อลิตร ใกล้เคียงกับความเร็วรอบของเครื่องยนต์ระดับแนวหน้าของโลก ความเร็วรอบเครื่องยนต์สูงสุด 9000 RPM |  |
 |
เมื่อเริ่มออกตัว รถจะทะยานไปข้างหน้าอย่างสุดแรง เรียกว่าหลังติดเบาะเลยทีเดียว ขณะเข้าโค้งก็ให้ความรู้สึกว่า รถคันนี้เกาะถนนเป็นตุ๊กแก จะมีความรู้สึกก็ช่วงแรงเหวี่ยงที่เข้าโค้งแต่ละโค้ง อัตราเร่งเร็วทันใจเหลือเฟือ จังหวะที่เข้าทางตรงสามารถอัดได้เต็มเหนี่ยว ลมที่ตีหน้าเข้ามายิ่งให้ความรู้สึกเร้าใจยิ่งขึ้น เรียกว่ายิ่งเร่งยิ่งมัน ส่วนระบบเบรกในช่วงที่ใช้ความเร็วสูง ๆ รู้สึกมั่นใจมาก เข้าโค้งทุกโค้งไม่หลุดออกนอกโค้ง เบรกไม่สะบัด |  |
 |
 |
 |
|
| จุดเด่นของ S2000 คือก่อปัญหามลพิษต่อสภาพแวดล้อมค่อนข้างต่ำ และขับขี่สนุก ส่วนบอดี้นั้น S2000 เป็นรถเปิดประทุน 2 ที่นั่ง หลังคาสามารถเปิดปิดได้ภายใน 6 วินาที ทางด้านโครงสร้างของตัวถังพัฒนาขึ้นมาใหม่เป็นแบบ high x - bone frame ซึ่งให้ความมั่นคงแข็งแรงและประสิทธิภาพในการคุ้มครองผู้โดยสารเทียบเท่ากับรถยนต์ปกติ โดยรถรุ่นนี้ผลิตจากโรงงานทาคาเน่ซาวา โตชิกิซึ่งเป็นโรงงานเดียวที่ผลิต Honda NSX สปอร์ตตัวแรงค่าตัวแพงสุดของค่ายฮอนด้าครับ | ||
 |
 |
Test Drive by AutoCar
Test |
S2000 2.0 VTi |
Max Speed |
147 |
0-60 mph |
5.6 |
0-100 mph |
14.3 |
30-70 mph |
5.2 |
50-70 mph |
8.9 |
60-0 mph |
2.7 |
Power (bhp) |
237 |
Torque (lb/ft) |
153 |
Mph/1000 rpm |
18.3 |
Test/touring mpg |
23.1/29 |
Weight (kg) |
1260 |
Test date |
12.5.99 |
